คริสตัล พาเลซ แชมป์ เอฟเอ คัพ หลังล้ม แมนซิตี้ เหลือเชื่อ 1-0
คริสตัล พาเลซ แชมป์ เอฟเอ คัพ หลังล้ม แมนซิตี้ – ผลบอล เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อ 17 พ.ค. คริสตัล พาเลซ สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ โค่นตัวเก็งเต็งแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ลงได้ 1-0 ครองแชมป์ประวัติศาสตร์ รายการแรกสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเลยทีเดียว
ฟุตบอล เอฟเอ คัพ เกมบอลถ้วยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก มาถึงนัดชิงชนะเลิศแล้วเมื่อวันเสาร์ เป็นการพบกันระหว่างตัวเต็ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ผ่าน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มาได้ในรอบตัดเชือก พบกับม้ามืด คริสตัล พาเลซ ที่ล้ม แอสตัน วิลล่า ลงอย่างสวย 3-0 รอบที่แล้ว
เกมนี้ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ ผู้จัดการทีม คริสตัล พาเลซ ได้ตัว อดัม วอร์ตัน ฟิตลงคุมแดนกลางพร้อม ไดจิ คามาดะ ส่วนเกมรุกอยู่ครบ ทั้ง เอเบเรชี่ เอเซ่ กับ อิสไมล่า ซาร์ สองตัวปั้นเกม และหอกเป้า ชอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า ที่ยิงได้มากถึง 17 ประตูในทุกรายการ
ด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า วาง เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ ลงยืนค้ำหน้าเป้า ส่วน โอมาร์ มาร์มุช ถอยลงเป็นกลางรุก ขนาบข้างด้วย เชเรมี่ โดกู และ ซาวินโญ่ ขณะที่ เควิน เดอ บรอยน์ คุมแดนกลางในฐานะกัปตันทีม และเป็นเกมสุดท้ายในการเล่นให้ เรือใบสีฟ้า
เกมที่ เวมบลีย์ สเตเดี้ยม ท่ามกลางแฟนบอลแน่นขนัด 84,163 คน แมนฯ ซิตี้ คุมเกมได้หมดตั้งแต่เสียงนกหวีกแรก และนาทีที่ 12 มีลุ้นจะแจ้ง ซาวินโญ่ เปิดเตะมุมทำขวามาให้ ยอสโก้ กวาร์ดิโอล โหม่งเต็มๆ แต่ถูก ดีน เฮนเดอร์สัน ป้องกันไว้ได้
กลายเป็น คริสตัล พาเลซ ที่ออกนำ 1-0 ในนาทีที่ 16 จากจังหวะสวนกลับ ดาเนียล มูนญอซ ได้แตะบอลทะลุขึ้นมาทางกราบขวาแล้วเปิดยัดเข้ากลางให้ เอเบเรชี่ เอเซ่ วิ่งตัดเข้ามาตั้งเท้ายิงบอลเข้าประตูไป
พาเลซ เกือบหนีห่างในนาทีที่ 20 มูนญอซ ได้เปิดจากทางกราบขวาเข้ากลางอีกแล้ว คราวนี้ให้ อิสไมล่า ซาร์ ได้ยิงไปตรงตัว สเตฟาน ออร์เตก้า
นาทีที่ 23 มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น เมื่อ กวาร์ดิโอล โยนยาวขึ้นหน้าให้ ฮาแลนด์ สปีดตามกำลังจะถึงบอล แต่ เฮนเดอร์สัน ใช้มือปัดให้บอลพ้นไป จากภาพช้าเหมือนว่ามือของ เฮนเดอร์สัน อยู่นอกเขตโทษ แต่วีเออาร์ก็ไม่มีการเรียกผู้ตัดสินไปดูจอข้างสนาม และปล่อยผ่านไปเสีย
แต่ แมนฯ ซิตี้ ก็มาได้จุดโทษในนาทีที่ 33 แบร์นาร์โด้ ซิลวา ลากบอลไปจะสุดเส้นหลังอยู่แล้ว แต่ ไทริค มิตเชลล์ ไปพลาดท่าเสียบซะล้ม ผู้ตัดสินชี้จุดโทษ โดยเป็น โอมาร์ มาร์มุช รับหน้าที่ยิง ปรากฏดันซัดไปถูก ดีน เฮนเดอร์สัน พุ่งถูกทางเซฟไว้ได้เต็มๆ
นาทีที่ 43 เป็นโอกาสทองของ ซิตี้ อีกครั้ง เชเรมี่ โดกู ได้ลากตัดจนมาเอี้ยวตัวปั่นด้วยเท้าขวาในเขตโทษด้านซ้ายจะเสียบเสาไกล แต่ เฮนเดอร์สัน ก็ยังพุ่งซูเปอร์เซฟมือเดียวได้อีก
ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี้ เกือบตีเสมอได้อีกเมื่อ ซาวินโญ่ โยนจากฝั่งขวาเข้าไป ฮาแลนด์ เทกตัวลอยมาจะโขกเต็มๆ อยู่แล้ว แต่ คริส ริชาร์ดส์ ยังโขกสกัดไว้ได้หวุดหวิด
นาที 58 กองเชียร์พาเลซ เฮลั่นสนาม เมื่อ มูนญอซ ยิงไปแฉลบ ออร์เตก้า แปะไว้ได้ก่อนที่ มูนญอซ จะตามเข้าซ้ำยัดเสาแรกไม่เหลือ แต่จากการเช็กวีเออาร์ปรากฎว่าบอลไปแฉลบ อิสไมล่า ซาร์ ที่ล้ำหน้าไปก่อน กลายเป็นเฮเก้อสำหรับพาเลซ
แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสเอาคืนอีกหนในนาทีที่ 82 เดอ บรอยน์ จ่ายให้ตัวสำรอง เคลาดิโอ เอเชเวร์รี่ กดเต็มข้อไม่ผ่านเซฟ เฮนเดอร์สัน แล้วพอจะยิงซ้ำก็ติดบล็อกอีก
ช่วงทดเจ็บ 10 นาที แมนฯ ซิตี้ ลุยใส่ฝ่ายเดียว แต่ไอเดียเกมรุกตีบตัน มีทั้งจ่ายพลาดเองและยิงหลุดไปเอง
จบเกม คริสตัล พาเลซ จึงเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ 1-0 คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ซึ่งเป็นถ้วยแชมป์ระดับเมเจอร์รายการแรกในประวัติศาสตร์สโมสร นับแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1905 พร้อมกับที่ซีซั่นหน้าจะได้ไปเล่น ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ด้วย
ด้าน แมนฯ ซิตี้ อกหักในนัดชิง เอฟเอ คัพ 2 ปีซ้อน, บทสรุปคือมือเปล่าสำหรับซีซั่นนี้ และยังต้องกลับไปสู้สุดตัวใน พรีเมียร์ลีก ที่เหลือคิวเตะอีก 2 นัด เพื่อแย่งชิงตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จากที่ตอนนี้หลุดลงมาเป็นอันดับ 6 แล้ว
ทำเนียบแชมป์ เอฟเอ คัพ สิบปีหลัง
2016 — แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (สมัยที่ 12)
2017 — อาร์เซน่อล (13)
2018 — เชลซี (8)
2019 — แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (6)
2020 — อาร์เซน่อล (14)
2021 — เลสเตอร์ ซิตี้ (1)
2022 — ลิเวอร์พูล (8)
2023 — แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (7)
2024 — แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (13)
2025 — คริสตัล พาเลซ (1)
ติดตามการแข่งขัน ฟุตบอลวันนี้ วิเคราะห์สถานการณ์ พรีเมียร์ลีก และเปลี่ยนการวิเคราะห์การแข่งขันที่แม่นยำของคุณ ให้กลายเป็นรายได้จริงกับ 12BET! เรียนรู้เพิ่มเติม >> 12BET.com